ปัญหาการชุบกัลวาไนซ์

 

ปัญหาการชุบกัลวาไนซ์

       การเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนหรือเรียกว่าการชุบฮอทดิฟกัลวาไนซ์ (Hotdip Galvanize) เป็นการชุบเพื่อการป้องกันการกัดกร่อนที่พื้นผิวเหล็กในระยะยาวเป็นจุดประสงค์หลัก ผิวของการชุบฮอทดิฟกัลวาไนซ์ จะไม่ได้คุณภาพผิวเคลือบสวยงามเสมอไป โดยทั่วไปการเคลือบสังกะสีจะถูกระบุโดยความหนาของผิวเคลือบที่เป็นสังกะสีเพื่อความต้านทานการกัดกร่อนเป็นหลัก อาจส่งผลทำให้คุณภาพของผิวที่เคลือบที่ออกมาจากการชุบที่จะไม่สมบูรณ์ ความไม่สมบูรณ์ของผิวชุบบางประเภทจะถูกแก้ไขทันทีหลังจากการชุบ หรือเมื่อระยะเวลาผ่านไปสภาพผิวที่บกพร่องบางประเภทจะลดลงไปตามระยะเวลา โดยสามารถแบ่งความบกพร่องของผิวการชุบชุบฮอทดิฟกัลวาไนซ์ ได้ดังนี้

1.รอยกระเด็นเชื่อม 

ด้วยวิธีการเชื่อม MIG ทําให้เกิดการกระเด็นของสะเก็ดเชื่อม อาจส่งผลให้หลังจากชุบฮอทดิฟกัลวาไนซ์ จะเห็นสะเก็ดเชื่อมที่ทำให้ผิวของการชุบ เป็นจุดได้ชัดเจนขึ้น

2.กรดที่ค้างอยู่ในขั้นตอนการทำความสะอาดผิวชิ้นงาน

โครงสร้างเหล็กที่จะนำมาชุบฮอทดิฟกัลป์วาไนซ์ ควรได้รับการออกแบบเพื่อหลีกเลี่ยงรอยแยกหรือช่องว่างที่แคบ หากเป็นรอยเชื่อมควรเชื่อมรอบข้อต่อทั้งหมด ในกรณีของรอยเชื่อมที่ต้องมาชนกันของรอยเชื่อมสองด้าน รอยเชื่อมจะต้องไม่มีช่องว่างตรงรอยต่อนั้นเพื่อป้องกันการซึมผ่านของกรดเข้าไปในช่องว่างของรอยต่อ นอกจากนี้ในงานเชื่อมต้องหลีกเลี่ยงการเกิดตามดในรอยเชื่อมซึ่งอาจจะส่งผลทำให้กรดเข้าไปในรูตามดที่เกิดขึ้นและในขั้นตอนการเตรียมผิว สังกะสีหลอมเหลวมีความหนืดมากกว่ากรด ทำให้เวลาจุ่มชิ้นงานไปในสังกะสีร้อน กรดที่ค้างอยู่ในตามดจะไหลออกมา และทำปฏิกิริยากับสังกะสีร้อนทำให้เกิดคราบสีน้ำตาล คราบที่เกิดขึ้นจะลดหายไปเมื่อระยะเวลาผ่านไป โดยไม่ส่งผลให้เกิดสนิมที่จุดดังกล่าว

3.หนามแหลมระบายน้ำสังกะสีร้อน

หนามแหลมเป็นข้อบกพร่องที่พบบ่อยมากและสามารถหลีกเลี่ยงได้ยากมาก โดยมุมของการแขวนชิ้นงานจะต้องใกล้กับ45°เพื่อให้การระบายน้ำสังกะสีร้อนได้ดีที่สุด แต่ก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงจุดดังกล่าวได้อย่าง100%  หลังจากการชุบจุดระบายน้ำสังกะสีร้อนดังกล่าวจะต้องถูกกำจัดออก

4.ผลึกสังกะสี

เป็นผลึกเหล็กสังกะสีขนาดเล็กที่เกิดจากการทําปฏิกิริยาเหล็กกับสังกะสีหลอมเหลวในระหว่างกระบวนการชุบสังกะสี ผลึกที่ค้างอยู่ในเตาชุบจะต้องถูกกำจัดออกเป็นระยะ และถ้ามีผลึกดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จะส่งผลกระทบกับชิ้นงานหลังจากการชุบ ผลึกสังกะสีในปริมาณที่มากเกินไปสามารถบ่งบอกถึงการเคลือบที่ไม่ดี

5.เถ้าย้อมสี

เกิดบริเวณด้านนอกของชิ้นงานเคลือบสังกะสี  อาจส่งผลให้เกิดคราบสีน้ำตาลอ่อนลักษณะพื้นผิวที่หมองคล้ำ มีผลกระทบเชิงลบต่อประสิทธิภาพของการเคลือบสังกะสี ถ้าเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ไม่มากจะสามารแก้ไขได้โดยการซ่อมแซมด้วยสแปรสังกะสี

6.รอยเคลือบสังกะสีที่หนาไม่เท่ากัน

เกิดจากอัตราการเกิดปฏิกิริยาที่แตกต่างกันของสังกะสีกับพื้นผิวเหล็กเนื่องจากพื้นที่ความเครียดบนพื้นผิวเหล็กที่ไม่เท่ากันในแต่ละจุด รอยนี้พบได้บ่อยที่สุดในท่อเหล็ก ไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการเคลือบ ผิว แต่มีปัญหาด้านรูปลักษณ์

7.รอยแขวน

รอยแขวนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลีกเลี่ยง แต่สามารถปรับมุมแขวนเพื่อลดรอยแขวนให้เหลือน้อยที่สุด

8.สังกะสีร่อน

การร่อนคือการแยกการผิวเคลือบสังกะสีกับชั้นโลหะเหล็กผสมสังกะสี การร่อนมักจะเกิดขึ้นกับการเคลือบสังกะสีที่มีความหนามากว่า200 μm โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเคลือบเหล่านี้ได้รับแรงกระแทกในระหว่างการกระบวนการการเคลือบ ผิวเคลือบที่หนาเกินไปส่งผลให้เกิดความเครียดสูงที่ส่วนต่อประสานของเหล็กและสังกะสีซึ่งทําให้สังกะสีกลายเป็นขุยและแยกออกจากพื้นผิวเหล็กการร่อนมักจะเกิดขึ้นใกล้ขอบ หากพื้นที่ของร่อนมีขนาดเล็กก็สามารถซ่อมแซมได้ อย่างไรก็ตามหากพื้นที่ร่อนมีขนาดใหญ่ก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ปัญหาดังกว่าวสามารถหลีกเลี่ยงได้โดยลดเวลาในการแช่บ่อชุบสังกะสีและการระบายความร้อนของชิ้นงานชุบสังกะสีโดยเร็วที่สุด

9.จุดที่ชุบไม่ติด

จุดที่ชุบไม่ติดเป็นพื้นที่สังกะสีไม่ติดบนผิวเหล็กเป็นข้อบกพร่องของพื้นผิวที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการเตรียมพื้นผิวชิ้นงานชุบไม่เพียงพอ เพื่อหลีกเลี่ยงจุดบกพร่องนี้คนที่ดูแลขั้นตอนการเตรียมผิวจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นผิวสะอาดและไม่มีสนิม จุดที่ชุบไม่ติดถ้ามีขนาดเล็กสามารถซ่อมแซมได้ด้วยสเปรย์สังกะสี หากขนาดของจุดนี้หรือจํานวนจุดทั้งหมดสูงกว่าข้อกําหนดที่กําหนดโดย ISO1461 ชิ้นงานจะต้องผ่านการลอกผิวและทำการชุบสังกะสีใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง

10.มอตติ้ง

ลักษณะพื้นผิวที่เป็นจุด ๆ เกิดจากอัตราการระบายความร้อนที่ไม่สม่ำเสมอของบทความชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนใหม่หลังจากเอาชิ้นงานออกจากอ่างสังกะสี ในระหว่างการระบายความร้อนด้วยอากาศของ

            ดังนั้นอาจจะสรุปโดยรวมได้ว่า งานชุบฮอทดิฟกัลป์วาไนซ์  เป็นการเคลือบผิวด้วยสังกะสีร้อน เพื่อชุดประสงค์หลักคือการป้องกันการเกิดสนิมที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว  และเพื่อให้ได้ผิวเคลือบที่มีคุณสมบัติในการป้องกันสนิมได้ดีที่สุด จึงจำเป็นต้องมีขั้นตอนของการเตรียมผิวด้วยการจุ่มด้วยสารเคมีซึ่งอาจส่งผลทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของผิวที่เคลือบสังกะสีหลังการชุบที่ออกมาจากการชุบที่จะดูไม่สมบูรณ์ ความไม่สมบูรณ์บางอย่างสามารถแก้ไขได้ทันทีหลังจากการชุบหรือเมื่อระยะเวลาผ่านไปสภาพผิวที่บกพร่องบางประเภทจะจางหายไปตามระยะเวลา โดยโรงชุบที่มีมาตรฐานจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด ที่กําหนดโดย ISO 1461

 

www.ตะแกรงฉีก.com โดย บริษัท ณัฐทรัพย์ แฟคตอรี่ จำกัด 

 

       ในนามของบริษัท ณัฐทรัพย์ แฟคตอรี่ จำกัด ขอบอบพระคุณลูกค้าทุกท่านเป็นอย่างสูงที่ให้การสนับสนุนสินค้าและบริการของบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา บริษัทฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสรับใช้คุณลูกค้าทุกท่านด้วยผลิตภัณฑ์อันทรงคุณค่าและบริการที่ดีเช่นนี้ตลอดไป ขอขอบพระคุณครับ/ค่ะ

 

 

Visitors: 97,766